กล้วยเป็นไม้ล้มลุก สูงประมาณ 3.5 เมตร ใบกว้างประมาณ 25 - 40 เซนติเมตร ยาวประมาณ 1 - 2 เมตร เป็นใบเดี่ยวขนาดใหญ่ มีเส้นใบขนานกันในแนวขวาง ด้านล่างมีนวลสีขาว ปลายใบมน ขอบใบเรียบ ออกเรียงสลับกัน ก้านใบเป็นร่องแคบ ออกดอกเป็นช่อที่ปลายยอด เรียกว่า หัวปลี ผลเป็นรูปรี ยาว 11 - 13 เซนติเมตร ผิวเรียบ ปลายเป็นจุก เนื้อในมีสีขาว พอสุกเปลือกจะเป็นสีเหลือง เนื้อมีรสหวาน รับประทานได้ หวีหนึ่งมีประมาณ 10 - 16 ผล บางครั้งมีเมล็ด ซึ่งมีลักษณะกลม และมีสีดำ

กล้วยเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานและมีคุณค่าทางโภชนาการสูง เพราะอุดมไปด้วยคาร์ไบไฮเดรต ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม ใยอาหาร และน้ำตาล 3 ชนิดที่ร่างกายสามารถดูดซึมเพื่อนำไปใช้งานได้ทันทีคือ ซูโครส ฟรักโทส และกลูโคส นอกจากนี้ยังมีธาตุเหล็ก ไนอาซิน วิตามินเอ บี1 บี2 บี6 และวิตามินซีอีกด้วย

ผู้ที่รับประทานกล้วยจึงช่วยป้องกันและเอาชนะโรคบางอย่างที่เกิดกับร่างกายได้ ดังนี้
--> ภาวะซึมเศร้า กล้วยช่วยให้ผู้ที่มีภาวะซึมเศร้ารู้สึกดีขึ้น เพราะมีสารทริปโตแฟน (Trytophan) ซึ่งเป็นกรดอะมิโนชนิดหนึ่งที่ร่างกายจะแปรเปลี่ยนไปเป็นสารซีโรโทนิน (Serotonin) ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อสมองและการควบคุมอารมณ์ จึงช่วยผ่อนคลายอารมณ์ ทำให้รู้สึกสงบ
--> ท้องผูก ใยอาหารและสารเซอโรโทนิน ซึ่งมีฤทธิ์เป็นยาระบายในกล้วยจะช่วยในการทำงานของลำไส้ให้เป็นปกติ
--> ภาวะโลหิตจาง ในกล้วยมีธาตุเหล็กสูงจึงช่วยกระตุ้นการผลิตเฮโมโกลบินในเลือดได้ดี
--> ความดันโลหิตสูง กล้วยเป็นผลไม้พิเศษที่ช่วยลดอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นจากโรคความดันโลหิตสูงหรือโรคเส้นเลือดฝอยแตก เพราะมีธาตุโพแทสเซียมสูง แต่มีปริมาณของเกลือโซเดียมต่ำ นอกจากนี้โพแทสเซียมยังช่วยให้เกิดความสมดุลในร่างกายในรายที่กำลังเกิดอาการเครียด และช่วยให้สมองตื่นตัวดี นักเรียนที่ทานกล้วยมื้อเช้าและมื้อกลางวันทุกวันจึงมีพลังสมองและกระตือรือร้นต่อการเรียนมากขึ้นอีกด้วย
--> ส่วนใครที่อยากเลิกบุหรี่ วิตามินบี 6 และบี 12 รวมทั้งโพแทสเซียมและแมกนีเซียมในกล้วยจะช่วยลดอาการอยากบุหรี่ลงได้ และใครที่มีอาการเมาค้าง การดื่มน้ำกล้วยปั่นผสมน้ำผึ้ง จะช่วยให้ กระเพาะอาหารสงบลง ในขณะที่น้ำผึ้งจะช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ส่วนนมก็จะช่วยปรับระดับของเหลวในร่างกายให้เป็นปกติ

นอกจากนี้ ในสตรีที่กำลังตั้งครรภ์ การรับประทานกล้วยเป็นอาหารว่าง นอกจากจะช่วยลดอาการแพ้ท้องแล้ว กล้วยยังมีสรรพคุณเป็นยาเย็น จึงช่วยลดอุณหภูมิในร่างกาย ทำให้อารมณ์เย็น และลูกน้อยที่เกิดขึ้นมาก็จะมีอุณหภูมิไม่สูงเกินไปอีกด้วย


ประโยชน์ของกล้วยยังไม่หมดแต่เพียงเท่านี้ เพราะกล้วยยังมีคุณค่าทางสมุนไพรอีกหลากหลาย ติดตามได้ในเรื่องกล้วยๆ ภาค 2 นะคะ

ขอบคุณข้อมูลจาก:
http://www.rspg.or.th/plants_data/herbs/herbs_13_1.htm
http://www.doctorhenn.com/index.php/about-banana/2009-10-28-09-24-21
http://variety.teenee.com/foodforbrain/16288.html

ขอบคุณรูปภาพจาก:
http://www.moooxy.com/?tag=ต้นกล้วย
http://www.baanmaha.com/community/thread38730.html

• < ต่อไป
• ต่อไป >