
- หมวด: สุขภาพในโลกไร้สาย
- 12 07
- | ฮิต: 1211

เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินมาว่า เวลานอนอย่าวางโทรศัพท์มือถือไว้ใกล้ตัวนะ อย่าคุยโทรศัพท์มือถือนานนะ เพราะคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ออกมาจากโทรศัพท์มือถือ จะส่งผลต่อระบบประสาท ทำให้สมองเสื่อม เป็นมะเร็งสมองได้
ด้วยเหตุนี้จึงได้มีนักวิจัยจากหลายประเทศทำการศึกษาค้นคว้าข้อมูลนี้ เพื่อค้นหาข้อเท็จจริง ก่อนที่จะมีงานวิจัยจากประเทศอังกฤษออกมาเปิดเผยว่า คลื่นไมโครเวฟจากโทรศัพท์มือถือก็มีผลต่อสมอง ในแง่ที่ทำให้สมองมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อคำถามแบบ "ใช่" หรือ "ไม่ใช่" ได้รวดเร็วขึ้น แต่ไม่มีผลต่อการทำงานของสมองในแง่อื่น ๆ และยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นอันตรายต่อสมอง
ทั้งนี้จริงอยู่ที่ว่า หากสิ่งมีชีวิตได้รับคลื่นรังสีในปริมาณมาก ๆ ย่อมส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลง จนทำให้เกิดอันตรายได้ แต่เนื่องจากความถี่ของคลื่นไมโครเวฟโทรศัพท์มือถือ กับเตาไมโครเวฟประกอบอาหารต่างกัน และกำลังส่งสัญญาณของโทรศัพท์มือถือก็ต่ำมาก ส่วนสนามแม่เหล็กที่ส่งออกมาก็มีขนาดเล็กมาก เกินกว่าจะมีผลกระทบต่อเซลล์ในร่างกาย จึงไม่จำเป็นที่จะต้องวิตกว่าการใช้โทรศัพท์มือถือจะทำให้ภูมิคุ้มกันแย่ลงหรือส่งผลกระทบต่อสมองและระบบประสาท
ส่วนที่เคยมีงานวิจัยจากสวีเดน และราชสมาคมในลอนดอนระบุไว้ว่า เด็กหรือวัยรุ่นอายุน้อยกว่า 20 ปี ที่ใช้โทรศัพท์มือถือ มีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งบริเวณส่วนต่อของหูกับสมอง หรือเนื้องอกในสมองมากกว่าคนทั่ว ๆ ไปถึง 5 เท่า เนื่องจากสมองและระบบประสาทยังไม่พัฒนาเต็มที่ และเด็กยังมีกะโหลกบางและเล็กกว่าผู้ใหญ่ ทำให้คลื่นพลังงานจากโทรศัพท์มือถือ สามารถทะลุทะลวงเข้าสู่สมองเด็กได้มากกว่า ขณะที่ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือหลังอายุ 20 ปี มีโอกาสเป็นเนื้องอกในสมองชนิดร้ายแรง เพียง 50% เท่านั้น แค่มีความเสี่ยงเป็นมะเร็งบริเวณส่วนต่อของหูกับสมองแค่ 2 เท่า
ข้อมูลนี้อาจจะดูน่ากลัวแต่ในความเป็นจริงแล้ว นักวิจัยเองก็ยอมรับว่ายังไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะยืนยันว่า การใช้โทรศัพท์มือถือในระยะยาว เกี่ยวข้องกับการเกิดมะเร็งที่บริเวณสมอง เพราะการเกิดมะเร็งสมองได้ต้องใช้เวลานานหลายปี และอาจมีปัจจัยอื่น ๆ เป็นองค์ประกอบด้วยจึงต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมต่อไปอีก
สรุปก็คือ ณ วันนี้ นักวิจัยยังไม่ฟันธงว่า คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากโทรศัพท์มือถือจะส่งผลอันตรายต่อระบบสมอง หรือประสาท อย่างที่ใคร ๆ กลัวกัน มีแต่เพียงคำเตือนที่ว่า การใช้โทรศัพท์มือถืออาจทำให้ผู้ใช้เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งสมองมากกว่าผู้ไม่ได้ใช้เท่านั้น และต้องมีการศึกษาวิจัยต่อไปอีกในอนาคต
แต่ถ้าหากใครยังไม่แน่ใจ หรือเกรงว่าผลวิจัยในอนาคตจะออกมาตรงกันข้ามกับข้อมูล ณ วันนี้ เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง เราก็ควรใช้โทรศัพท์มือถืออย่างระมัดระวังมากขึ้นโดย เปลี่ยนไปใช้สมอลทอกล์ หรือ บลูทูธ เพื่อหลีกเลี่ยงการถือโทรศัพท์แนบกับศีรษะ ไม่ควรคุยโทรศัพท์นานเกินไป โดยเวลาที่เหมาะสมที่สุดคือประมาณ 15 นาที ไม่ควรใช้โทรศัพท์มือถือ หากอยู่ในบริเวณที่มีสัญญาณต่ำ เพราะจะทำให้โทรศัพท์ปล่อยคลื่นความถี่สูงกว่าปกติ
ทราบข้อมูลดี ๆ แบบนี้แล้ว ก็อย่าลืมปฏิบัติตามนะคะ ป้องกันไว้ก่อนรับรองว่าดีที่สุดค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก http://health.kapook.com/view21090.html
ขอบคุณรูปภาพจาก เว๊บ consumersongkhla.org
Most Popular
ทำไมถึงตดเยอะ ทำอย่างไรดี!
ทุกคนล้วนเคยตด การตดเมื่ออยู่คนเดียวดูจะเป็นเรื่องธรรมดาสามัญ แต่เมื่อตดต่อหน้าธารกำนัลจะกลายเป็นเรื่องที่ผิดกาลเทศะ คนส่วนใหญ่จึงมักอายที่จะตดอย่างเปิดเผย ...
ทำไมตดถึงเหม็น
หลายคนอาจเคยพบกับประสบการณ์เผชิญหน้าโดยตรงกับ "ตด" หรือที่เรียกอย่างสุภาพว่า "ผายลม" สูดลมหายใจดมกลิ่นมันเข้าไปโดยไม่ได้คิดอะไร แต่หารู้ไม่ว่าตดบอกอะไรกับเราได้หลายอย่างเลยทีเดียว ...
"ไข้ทับระดู" ภัยอันตรายสำหรับคุณผู้หญิง
เมื่อพูดถึงไข้ทับระดู แน่นอนค่ะ ดิฉันมั่นใจว่าคุณผู้หญิงทุกคนรู้จักกับมันเป็นอย่างดีค่ะ มันมักมากับเจ้าน้องไฟแดงของเรา ซึ่งไม่ธรรมดานะค่ะ หากมีอาการอื่นแทรกซ้อนละก็ เจ้าไข้นี่ ...
“ทินเนอร์” สารระเหยอันตราย
ทินเนอร์ เป็นสารเคมีที่มีการใช้อย่างแพร่หลาย มักนำมาใช้ผสมในสีทาบ้าน รวมทั้งน้ำยาล้างเล็บและสารเคลือบเงา เช่น แล็กเกอร์ หรือวาร์นิช ส่วนประกอบหลักของทินเนอร์ ได้แก่ โทลูอีน (toluene) ...
ลงเล่นน้ำได้ไหม ถ้าประจำเดือนมา
เชื่อเลยนะค่ะ ว่าหญิงสาวหลายๆคนเลยที่อุตส่าห์นัดเพื่อน ๆ ไปพักผ่อนหย่อนใจที่ทะเลเสียหน่อย แต่พอเอาจริงๆแล้ว ถึงวันจะเที่ยวแล้วเนี่ย ประจำเดือนเจ้ากรรม ดันมาซะงั้นอ่ะ ถ้าไปเที่ยวแบบเที่ยว ...